(0)
ผ้ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เนื้อผ้า(หยาบ) ปี 2484 มีบัตรรับรอง







ชื่อพระเครื่องผ้ายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เนื้อผ้า(หยาบ) ปี 2484 มีบัตรรับรอง
รายละเอียดวัดใจกันไปครับ พร้อมเปลี่ยนชื่อบัตรให้ครับ สภาพสวย นานๆมาที หายาก
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน7,600 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 02 มิ.ย. 2565 - 18:55:22 น.
วันปิดประมูล - 03 มิ.ย. 2565 - 19:31:18 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลZRONKETHUMMPE (261)(1)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 02 มิ.ย. 2565 - 18:57:09 น.



*** สภาพสวยมากๆ สมบูรณ์ไม่มีรูไม่มีขาด ผ่านมา 79 ปี ผ้ายังขาวมีคราบเหลืองน้อยมาก ไม่ผ่านการใช้ สภาพนี้หายากสุดๆ ครับ ***
..................
ยันต์เกราะเพชร ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค นั้นเป็นตำราของอาจารย์พระร่วง ท่านเรียนมาจากอาจารย์แจง สวรรคโลก เป็นลูกหลานในสายพระร่วงหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเมตตาเล่าว่า งานเป่ายันต์แต่ละครั้ง เรือแพแน่นขนัดไปทั้งแม่น้ำ ผู้คนหลั่งไหลกันมามืดฟ้ามัวดิน หุงข้าวพร้อมกันทีละแปดกระทะ ตั้งแต่เช้ายันเย็นยังไม่พอเลี้ยงคนเลย
พุทธคุณของยันต์เกราะเพชร
๑. จะไม่มีทางตายโหง
๒. จะไม่ถูกคุณผี คุณคน จะป้องกันสรรพอันตรายที่บุคคลทั้งหลายทำมาด้วยวิชาการต่างๆ
๓. จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์พิษ
๔. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
๕. ไสยศาสตร์ สิ่งไม่ดี ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
......................
อานุภาพของยันต์เกราะเพชร "
"....บทยันต์เกราะเพชร ตำรับท่านหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคนั้น ทั้งได้สืบทอดมาถึงท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้เป็นศิษย์ ถือเป็นวิชชาศักดิ์สิทธิ์ ที่สืบทอดมาแต่สมัยพระร่วงเจ้า นับแต่ยุคสุโขทัย ที่ใช้อธิษฐานประสิทธิ เพื่อให้เกิดความสวัสสิริมงคล แก่องค์พระมหากษัตราธิราชเจ้า และเหล่าขุนศึก นักรบ ทหารกล้า ทั้งหลาย ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากโทษภัยทั้งปวง "
".....อักขระ ที่นำมาเขียนเป็นบทมหายันต์เกราะเพชรนั้น ก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นบทพุทธคุณสรรเสริญบารมีพระพุทธองค์ ในบทอิติปิโสห้องแรก นั่นเอง ..."
"....โดยการจัดเรียง อักขระ ตามแนวตั้งแถวแรก จากบนลงล่าง จำนวน ๘ อักขระ ..
....ตั้งแต่...อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ...และวกกลับขึ้นไปเขียนต่อจากอักขระตัวแรกของแถวบน มาเป็นแถวตั้งแถวที่ ๒ จากบนลงล่าง...
....เริ่มจาก" ..ระ หัง สัม มา สัม พุทโธ วิช..." เป็นแถวที่ ๒ ตามแนวตั้ง จากบนลงล่าง
....จนครบ จำนวน ๘ อักขระ เมื่อครบแล้ว จึงไล่เริ่มต้น ขึ้นใหม่ ตามลำดับ จากบนลงล่าง จนถึงแถวสุดท้าย จนถึง ..ภะ คะ วา ติ ..." ครบบทพุทคุณห้องแรก "
"....เมื่อเรียงจาก แถวซ้ายไปขวา จะได้ ๘ แถวพอดี เรียงจากอักขระบนลงล่าง ได้ จำนวน ๗ แถว พอดี
"....และลากโยงเส้นเป็นตาข่าย โยงอักขระทั้งหมด ๕๖ อักขระ จะเกิดเป็นเส้นตาข่ายยันต์ เป็นที่มาแห่ง "ยันต์เกราะเพชร "
"....อุปเทห์แห่งมหายันต์เกราะเพชรนั้น มีอุปเทห์มากมาย เมื่อเรียงจาก แถวหน้าซ้าย-ไปขวา จากบนลงล่าง จะได้ จำนวนทั้งสิ้น ๘ แถว
"....อาทิเช่น แถวแรก ..อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ..มีชื่อเฉพาะว่า ..กระทู้ ๗ แบก ...
.....แถวที่ ๒ ...ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ...มีชื่อว่า ..ฝนแสนห่า..
.....แถวที่ ๓ ...ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท ...มีชื่อว่า...พระเจ้าเกลื่อนสมุทร..
.....แถวที่ ๔ ...โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ...มีชื่อว่า พระเจ้าถอดจักร
.....แถวที่ ๕...ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ ...มีชื่อว่า พระเจ้าตรึงไตรภพ
.....แถวที่ ๖....คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ ...มีชื่อว่า พระเจ้าพลิกแผ่นดิน
.....แถวที่ ๗ ....วา โธ โน อะ มะ มะ วา ...มีชื่อว่า ตวาดฟ้า ป่าหิมพานต์
....จนถึงแถวสุดท้าย แถวที่ ๘ ...อะ วิ สุ นุ สา นุส ติ....พระเจ้าแปลงรูป... "
....ในการนำแต่ละบทมาใช้นั้น มีวิธีการ และอุปเทห์การใช้อย่างมากมาย ตามโบราณกาลที่ได้กล่าวไว้ " เปรียบเสมือนฝอยท่วมหลังช้าง "
.....ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ท่านได้พบตำรามหายันต์เกราะเพชร ครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อประมาณ อายุ ๑๕ ปี (ประมาณปี ๒๕๑๘..ประมาณเกือบ ๔๐ ปี ผ่านมาแล้ว ) จากตำราพระคาถาเก่าแก่ ที่คุณตา ของท่านที่ได้เก็บรักษาไว้ จนเก่าขาด ..
.....คุณตา คุณ ยาย ของท่านอาจารย์ เป็นคนตระกูลเก่าแก่ ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกล จากวัดบางนมโคเท่าไร (ท่านอยู่ในเกาะเมือง บริเวณพระราชวังพระศรีสรรเพชร(เดิม) ปัจจุบันได้ถูกเวนคืน เป็นเมืองมรดกโลกไปแล้ว ) ท่านอาจารย์ จึงเติบโตที่นั่นมาตั้งแต่เยาว์วัย ท่านจึงได้ศึกษา วิชชายันต์เกาะเพชรตั้งแต่นั้นมา
.... เมื่อท่านไปพบกับองค์บรมครูหลวงปู่จักรวาล อริยวังโส ท่านอ.ได้สอบถามข้อสงสัย เกี่ยวกับมหายันต์เกาะเพชร และได้รับการชี้แนะ และประสิทธิจากองค์หลวงปู่ หลังจากนั้น จนได้มาพบและถวายตัวเป็นศิษย์ท่านหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ หลังจากปี ๒๕๒๐ กว่าๆ เป็นต้นมา ท่านจึงได้ทบทวนและได้เรียนรู้เป็นการพิเศษ และได้รับการประสิทธิมหายันต์เกาะเพชร จากท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อีกครั้งหนึ่ง นับแต่นั้นเป็นต้นมา
.....องค์หลวงปู่ครูบาอาจารย์ ท่านได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ได้รับการประสิทธิเป่ายันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้าชะตาไม่ถึงฆาตอายุขัย ทั้งไม่ใช่ "วันดับสูญ" (๑ ใน ๗ วัน) ของตนเองแล้วละก็ ผู้นั้น จะไม่ตายโหง ด้วยศาตราวุธ คมหอก ดาบ ยาพิษ อสรพิษร้าย คนคน คุณไสย อุปอันตราย ไม่แผ้วพานตนเองอย่างเด็ดขาด!!...
....วิธีประสิทธิมหายันต์เกราะเพชรนั้น ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ท่านจะอธิษฐานจิตอัญเชิญคุณพระพุทธองค์ ตั้งแต่องค์ต้นปฐมบรมศาสดา จนถึงสมณโคดมองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งองค์บรมครู ท่านผู้เป็นองค์ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอาทิ ท่านหลวงพ่อปาน องค์หลวงปู่จักรวาล องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาเป็นองค์ประทานทุกๆครั้ง หลังจากที่องค์องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้ละสังขารไปแล้ว หลังจากที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้มรณภาพแล้ว นับแต่ปี ๒๕๓๕ เป็นต้นมา
.....หลังจากนั้น เป็นต้นมาหลังจากที่ท่านอาจารย์ ท่านจึงได้กระทำพิธีอธิษฐานธรรมเป็นการส่วนตัว ในวันบูชาระลึกถึงองค์ครูบาอาจารย์ ในการทบทวนระลึกถึงคุณอานุภาพแห่งพระยันต์เกราะเพชร เป็นการภายในเป็นประจำทุกๆปี จนมีลูกศิษย์บางท่านได้รับทราบ ได้ขออนุญาตท่านอ.เพื่อที่จะขอเข้าร่วมในพิธีบูชาครู ขอขอมงคลวิชชาจากองค์ครูบาอาจารย์ ท่านอ.ทองทิพย์ โอภาโส จึงได้อธิษฐานจิตขออนุญาตต่อองค์บรมครูทุกๆท่าน อัญเชิญท่านมากระทำพิธีประสิทธิยันต์เกราะเพชร โดยใช้ มโนมัยฤทธิ อัญเชิญองค์ครูบาอาจารย์ท่านมาประสิทธิเป็นประจำทุกๆปี นับแต่นั้นเป็นต้นมา จนศิษย์ทั้งหลายได้รับทราบเป็นวงกว้าง จึงได้ขอร้องให้ท่านอาจารย์ ได้กระทำพิธี นี้ในคราวันบูชาครู จนถึงปัจจุบัน..
.....หลายท่านเมื่อได้เข้าร่วมพิธีรับมหายันต์เกราะเพชร โดยท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส แล้ว หลายๆท่านต่างพบกับประสพการณ์ต่างๆอย่างมากมาย บางท่านเมื่อรับการประสิทธิเป่ายันต์เกราะเพชรเสร็จเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ได้ปรากฏการณ์ประหลาด มีอาการอวก อาเจียร เวียนศีรษะ ร้อน คัน เย็น เสียว ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย (เป็นอาการที่ยันต์ได้แทรกซึมเข้าสู่ตัว)...ดังรูป พุทธานุภาพแห่งมหายันต์เกราะเพชร จะไปขับสิ่งไม่ดี ที่แฝงอยู่ในร่างกาย ของบุคคลที่เข้าร่วมพิธี ให้ออกมา
....ศิษย์ของท่านอ.ทองทิพย์ โอภาโส หลายท่าน ที่ตั้งครรภ์ ได้มาเข้าร่วมพิธี ปรากฏว่าบุตรน้อยที่ได้คลอดออกมานั้น มักจะมีรอยคล้ายเส้นปาน ดำ แดง ปรากฏให้เห็นในตอนคลอดใหม่ๆ เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือนก็จะจางหายไป(เข้าสู่เนื้อ-กระดูก)
....มีบางท่าน ได้นำผ้ายันต์เกราะเพชร ที่ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ได้กระทำพิธีอัญเชิญพุทธานุภาพ และคุณองค์หลวงปู่ครูบาอาจารย์ ประสิทธิมหายันต์เกราะเพชรแล้ว ที่ได้รับแจกจากท่านอาจารย์ ไปถ่ายภาพแสงออร่า (เพื่อพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์) ได้ปรากกเป็นแสงสว่างเจิดจ้า รอบๆแผ่นผ้านั้น อย่างอัศจรรย์ ทั้งเจ้าตัวได้ทดลองถ่ายภาพตนเอง หลังจากที่ได้รับการเป่ายันต์เกราะเพชร จากท่านอาจารย์ แล้ว ภาพที่ออกมา เป็นแสงรัศมีรอบตนเอง คล้ายกับแสงที่ปรากฏรอบผ้ายันต์อย่างประหลาด...
.....เป็นโอกาสดี ในวันเสาร์ที่ ๒๘ ก.พ. ๒๕๕๘ นี้ ในวันงาน " สานรักกตัญญู บูชาครู ปี ๕๘ " ที่จะถึงนี้ ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส จะได้อธิษฐานอัญเชิญพุทธบารมีของพระพุทธจ้าทุกๆพระองค์ และองค์บรมครู องค์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค องค์หลวงปู่จักรวาล และองค์หลวงพ่อฤษษีลิงดำ ให้มาประสิทธิ์มหายันต์เกราะเพชรอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ ให้แก่คณะศิษย์...ณ.อาศรมธรรม โอภาโส ประจำปี ๒๕๕๘ นี้ อีกครั้งหนึ่ง
(โปรดย้อนเข้าไปดูโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับวันพิธี ในโพสต์ก่อนหน้านี้ ในเฟสนี้ได้ )
สาธุ สาธุ สาธุ พระอะระหังเมตตา บุญรักษา อนุโมทามิ
คัดลอกและถ่ายทอดข้อมูลจากท่านอ.ทองทิพย์ โอภาโส
..........................
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าว่า คราวหนึ่ง พระผลบวชพรรษาเดียวกับฉัน ปรากฏว่าถูกงูเห่ากัด เห็นตัวชัดเพราะเป็นกลางคืนเดือนหงาย เห็นว่าเป็นงูเห่าแน่ เอาไฟส่องดูก็แผ่แม่เบี้ยหราเป็นงูเห่า แกก็วิ่งเข้ามาหาหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานก็ถามว่า
แกรับยันต์เกราะเพชรหรือเปล่า พระผลก็บอกว่ารับขอรับ ท่านบอกว่าถ้ารับไม่รักษา ฉันอยากจะดูคนที่รับยันต์เกราะเพชรมันตายเพราะถูกงูกัดสักคน ถ้าหากว่าแกตายฉันจะดีใจมาก ท่านผลหน้าซีด
ท่านก็กลับไป ปรากฏว่า พิษมันวิ่งขึ้นมาถึงเข่า แล้วก็ถอยไปปวดอยู่ปากแผล เดี๋ยวมันก็ปวดขึ้นมาถึงเข่า แล้วก็ปวดที่ปากแผล ๓ ครั้ง
พอวาระที่สามปรากฏว่า อาการปวดหายไปหมดเลย พิษหมดเลย
หลวงพ่อปานก็บอกว่านั่นนะซิ ฉันแน่ใจว่ายันต์เกราะเพชรของฉันดี แต่ถ้าแกรับแล้วแกตายเพราะงูกัด ฉันก็จะเห็นว่าแกเป็นคนเลวมาก ไม่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า เพราะว่ายันต์เกราะเพชรนี่ฉันอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าคุ้มครองนะไม่ใช่อื่น
ถ้าแกตายแล้วก็เป็นพระด้วย แกรับยันต์เกราะเพชรไปแล้วด้วย ถ้าถูกงูกัดแล้วตายเพราะงูพิษ ก็น่าจะตายหรอก เพราะว่าคนที่บวชแล้วไม่เคารพในพระพุทธเจ้า ไม่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าบวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา เป็นคนเลวก็ควรจะตาย แต่ว่าแกไม่ตาย นี่ก็แสดงว่าแกเป็นคนดีแล้ว ความมั่นคงในพระพุทธเจ้าใช้ได้ นี่ว่ากันถึง ” ยันต์เกราะเพชร ”
‪‎จะพูดถึงบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อปานนั้น แต่ละองค์ ก็ล้วนเก่งวิชาแตกต่างกัน แต่ที่เชี่ยวชาญชำนาญวิชายันต์เกราะเพชร ก็ต้องหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง (ผักไห่) ในสมัยหลวงพ่อเชิญ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำพิธี เป่ายันต์เกราะเพชร แทบทุกปี
ส่วน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย (เสนา) ท่านจะเน้น เป่ายันต์พรหม 4 หน้า เป็นหลักมากกว่า
ส่วน หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา (บางบาล) ท่านจะเน้นเป็นหมอรักษาคนเจ็บ สืบทอดเจตนาพระหมอ ของหลวงพ่อปาน
จะพูดถึงวิชา ยันต์เกราะเพชรสายอยุธยา ต่อจากหลวงพ่อปาน ต้องยกให้ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง มูลเหตุแห่งการเรียนวิชาของหลวงพ่อเชิญ จาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค นั้น เกิดจากหลวงพ่อปาน ท่านเป็นเพื่อนกับ หลวงพ่อเพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกทอง อาจารย์ของหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
เวลาหลวงพ่อปาน มาหาหลวงพ่อเพิ่ม ขากลับ หลวงพ่อเชิญจะทำหน้าที่พายเรือไปส่ง หลวงพ่อปาน ที่วัดบางนมโค พอหนักๆ เข้าหลวงพ่อเชิญ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชาจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค (ที่วัดโคกทอง จะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในนั้นมีหิน 2 ก้อน ก้อนหนึ่งหลวงพ่อเพิ่มได้ทำการ จารยันต์สลักไว้ อีกก้อนเป็นของหลวงพ่อปาน ทำไว้)
นอกจากนี้ หลวงพ่อเชิญ ยังใช้ยันต์ประจำตัว เป็นยันต์ ” นะลือชา (ฤาชา) ซึ่งเป็นยันต์สายวิชา หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยหลวงพ่อเพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกทอง ได้ไปเรียนมาจาก หลวงปู่ศุข และได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อเชิญ
หลวงพ่อเชิญ ท่านจะใส่ยันต์เกราะเพชร ในพระเครื่องของท่านแทบทุกรุ่น พระหลวงพ่อเชิญแทบทุกรุ่น ต้องมียันต์เกราะเพชร หรือไม่ก็ นะลือชา
*** สภาพสวยมากๆ สมบูรณ์ไม่มีรูไม่มีขาด ผ่านมา 79 ปี ผ้ายังขาวมีคราบเหลืองน้อยมาก ไม่ผ่านการใช้ สภาพนี้หายากสุดๆ ครับ ***
..................
ยันต์เกราะเพชร ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค นั้นเป็นตำราของอาจารย์พระร่วง ท่านเรียนมาจากอาจารย์แจง สวรรคโลก เป็นลูกหลานในสายพระร่วงหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเมตตาเล่าว่า งานเป่ายันต์แต่ละครั้ง เรือแพแน่นขนัดไปทั้งแม่น้ำ ผู้คนหลั่งไหลกันมามืดฟ้ามัวดิน หุงข้าวพร้อมกันทีละแปดกระทะ ตั้งแต่เช้ายันเย็นยังไม่พอเลี้ยงคนเลย
พุทธคุณของยันต์เกราะเพชร
๑. จะไม่มีทางตายโหง
๒. จะไม่ถูกคุณผี คุณคน จะป้องกันสรรพอันตรายที่บุคคลทั้งหลายทำมาด้วยวิชาการต่างๆ
๓. จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์พิษ
๔. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
๕. ไสยศาสตร์ สิ่งไม่ดี ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
......................
อานุภาพของยันต์เกราะเพชร "
"....บทยันต์เกราะเพชร ตำรับท่านหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคนั้น ทั้งได้สืบทอดมาถึงท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้เป็นศิษย์ ถือเป็นวิชชาศักดิ์สิทธิ์ ที่สืบทอดมาแต่สมัยพระร่วงเจ้า นับแต่ยุคสุโขทัย ที่ใช้อธิษฐานประสิทธิ เพื่อให้เกิดความสวัสสิริมงคล แก่องค์พระมหากษัตราธิราชเจ้า และเหล่าขุนศึก นักรบ ทหารกล้า ทั้งหลาย ในการใช้ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากโทษภัยทั้งปวง "
".....อักขระ ที่นำมาเขียนเป็นบทมหายันต์เกราะเพชรนั้น ก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นบทพุทธคุณสรรเสริญบารมีพระพุทธองค์ ในบทอิติปิโสห้องแรก นั่นเอง ..."
"....โดยการจัดเรียง อักขระ ตามแนวตั้งแถวแรก จากบนลงล่าง จำนวน ๘ อักขระ ..
....ตั้งแต่...อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ...และวกกลับขึ้นไปเขียนต่อจากอักขระตัวแรกของแถวบน มาเป็นแถวตั้งแถวที่ ๒ จากบนลงล่าง...
....เริ่มจาก" ..ระ หัง สัม มา สัม พุทโธ วิช..." เป็นแถวที่ ๒ ตามแนวตั้ง จากบนลงล่าง
....จนครบ จำนวน ๘ อักขระ เมื่อครบแล้ว จึงไล่เริ่มต้น ขึ้นใหม่ ตามลำดับ จากบนลงล่าง จนถึงแถวสุดท้าย จนถึง ..ภะ คะ วา ติ ..." ครบบทพุทคุณห้องแรก "
"....เมื่อเรียงจาก แถวซ้ายไปขวา จะได้ ๘ แถวพอดี เรียงจากอักขระบนลงล่าง ได้ จำนวน ๗ แถว พอดี
"....และลากโยงเส้นเป็นตาข่าย โยงอักขระทั้งหมด ๕๖ อักขระ จะเกิดเป็นเส้นตาข่ายยันต์ เป็นที่มาแห่ง "ยันต์เกราะเพชร "
"....อุปเทห์แห่งมหายันต์เกราะเพชรนั้น มีอุปเทห์มากมาย เมื่อเรียงจาก แถวหน้าซ้าย-ไปขวา จากบนลงล่าง จะได้ จำนวนทั้งสิ้น ๘ แถว
"....อาทิเช่น แถวแรก ..อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ..มีชื่อเฉพาะว่า ..กระทู้ ๗ แบก ...
.....แถวที่ ๒ ...ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ...มีชื่อว่า ..ฝนแสนห่า..
.....แถวที่ ๓ ...ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท ...มีชื่อว่า...พระเจ้าเกลื่อนสมุทร..
.....แถวที่ ๔ ...โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ...มีชื่อว่า พระเจ้าถอดจักร
.....แถวที่ ๕...ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ ...มีชื่อว่า พระเจ้าตรึงไตรภพ
.....แถวที่ ๖....คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ ...มีชื่อว่า พระเจ้าพลิกแผ่นดิน
.....แถวที่ ๗ ....วา โธ โน อะ มะ มะ วา ...มีชื่อว่า ตวาดฟ้า ป่าหิมพานต์
....จนถึงแถวสุดท้าย แถวที่ ๘ ...อะ วิ สุ นุ สา นุส ติ....พระเจ้าแปลงรูป... "
....ในการนำแต่ละบทมาใช้นั้น มีวิธีการ และอุปเทห์การใช้อย่างมากมาย ตามโบราณกาลที่ได้กล่าวไว้ " เปรียบเสมือนฝอยท่วมหลังช้าง "
.....ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ท่านได้พบตำรามหายันต์เกราะเพชร ครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อประมาณ อายุ ๑๕ ปี (ประมาณปี ๒๕๑๘..ประมาณเกือบ ๔๐ ปี ผ่านมาแล้ว ) จากตำราพระคาถาเก่าแก่ ที่คุณตา ของท่านที่ได้เก็บรักษาไว้ จนเก่าขาด ..
.....คุณตา คุณ ยาย ของท่านอาจารย์ เป็นคนตระกูลเก่าแก่ ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกล จากวัดบางนมโคเท่าไร (ท่านอยู่ในเกาะเมือง บริเวณพระราชวังพระศรีสรรเพชร(เดิม) ปัจจุบันได้ถูกเวนคืน เป็นเมืองมรดกโลกไปแล้ว ) ท่านอาจารย์ จึงเติบโตที่นั่นมาตั้งแต่เยาว์วัย ท่านจึงได้ศึกษา วิชชายันต์เกาะเพชรตั้งแต่นั้นมา
.... เมื่อท่านไปพบกับองค์บรมครูหลวงปู่จักรวาล อริยวังโส ท่านอ.ได้สอบถามข้อสงสัย เกี่ยวกับมหายันต์เกาะเพชร และได้รับการชี้แนะ และประสิทธิจากองค์หลวงปู่ หลังจากนั้น จนได้มาพบและถวายตัวเป็นศิษย์ท่านหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ หลังจากปี ๒๕๒๐ กว่าๆ เป็นต้นมา ท่านจึงได้ทบทวนและได้เรียนรู้เป็นการพิเศษ และได้รับการประสิทธิมหายันต์เกาะเพชร จากท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อีกครั้งหนึ่ง นับแต่นั้นเป็นต้นมา
.....องค์หลวงปู่ครูบาอาจารย์ ท่านได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ได้รับการประสิทธิเป่ายันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้าชะตาไม่ถึงฆาตอายุขัย ทั้งไม่ใช่ "วันดับสูญ" (๑ ใน ๗ วัน) ของตนเองแล้วละก็ ผู้นั้น จะไม่ตายโหง ด้วยศาตราวุธ คมหอก ดาบ ยาพิษ อสรพิษร้าย คนคน คุณไสย อุปอันตราย ไม่แผ้วพานตนเองอย่างเด็ดขาด!!...
....วิธีประสิทธิมหายันต์เกราะเพชรนั้น ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ท่านจะอธิษฐานจิตอัญเชิญคุณพระพุทธองค์ ตั้งแต่องค์ต้นปฐมบรมศาสดา จนถึงสมณโคดมองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งองค์บรมครู ท่านผู้เป็นองค์ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอาทิ ท่านหลวงพ่อปาน องค์หลวงปู่จักรวาล องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาเป็นองค์ประทานทุกๆครั้ง หลังจากที่องค์องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้ละสังขารไปแล้ว หลังจากที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้มรณภาพแล้ว นับแต่ปี ๒๕๓๕ เป็นต้นมา
.....หลังจากนั้น เป็นต้นมาหลังจากที่ท่านอาจารย์ ท่านจึงได้กระทำพิธีอธิษฐานธรรมเป็นการส่วนตัว ในวันบูชาระลึกถึงองค์ครูบาอาจารย์ ในการทบทวนระลึกถึงคุณอานุภาพแห่งพระยันต์เกราะเพชร เป็นการภายในเป็นประจำทุกๆปี จนมีลูกศิษย์บางท่านได้รับทราบ ได้ขออนุญาตท่านอ.เพื่อที่จะขอเข้าร่วมในพิธีบูชาครู ขอขอมงคลวิชชาจากองค์ครูบาอาจารย์ ท่านอ.ทองทิพย์ โอภาโส จึงได้อธิษฐานจิตขออนุญาตต่อองค์บรมครูทุกๆท่าน อัญเชิญท่านมากระทำพิธีประสิทธิยันต์เกราะเพชร โดยใช้ มโนมัยฤทธิ อัญเชิญองค์ครูบาอาจารย์ท่านมาประสิทธิเป็นประจำทุกๆปี นับแต่นั้นเป็นต้นมา จนศิษย์ทั้งหลายได้รับทราบเป็นวงกว้าง จึงได้ขอร้องให้ท่านอาจารย์ ได้กระทำพิธี นี้ในคราวันบูชาครู จนถึงปัจจุบัน..
.....หลายท่านเมื่อได้เข้าร่วมพิธีรับมหายันต์เกราะเพชร โดยท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส แล้ว หลายๆท่านต่างพบกับประสพการณ์ต่างๆอย่างมากมาย บางท่านเมื่อรับการประสิทธิเป่ายันต์เกราะเพชรเสร็จเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ได้ปรากฏการณ์ประหลาด มีอาการอวก อาเจียร เวียนศีรษะ ร้อน คัน เย็น เสียว ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย (เป็นอาการที่ยันต์ได้แทรกซึมเข้าสู่ตัว)...ดังรูป พุทธานุภาพแห่งมหายันต์เกราะเพชร จะไปขับสิ่งไม่ดี ที่แฝงอยู่ในร่างกาย ของบุคคลที่เข้าร่วมพิธี ให้ออกมา
....ศิษย์ของท่านอ.ทองทิพย์ โอภาโส หลายท่าน ที่ตั้งครรภ์ ได้มาเข้าร่วมพิธี ปรากฏว่าบุตรน้อยที่ได้คลอดออกมานั้น มักจะมีรอยคล้ายเส้นปาน ดำ แดง ปรากฏให้เห็นในตอนคลอดใหม่ๆ เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือนก็จะจางหายไป(เข้าสู่เนื้อ-กระดูก)
....มีบางท่าน ได้นำผ้ายันต์เกราะเพชร ที่ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส ได้กระทำพิธีอัญเชิญพุทธานุภาพ และคุณองค์หลวงปู่ครูบาอาจารย์ ประสิทธิมหายันต์เกราะเพชรแล้ว ที่ได้รับแจกจากท่านอาจารย์ ไปถ่ายภาพแสงออร่า (เพื่อพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์) ได้ปรากกเป็นแสงสว่างเจิดจ้า รอบๆแผ่นผ้านั้น อย่างอัศจรรย์ ทั้งเจ้าตัวได้ทดลองถ่ายภาพตนเอง หลังจากที่ได้รับการเป่ายันต์เกราะเพชร จากท่านอาจารย์ แล้ว ภาพที่ออกมา เป็นแสงรัศมีรอบตนเอง คล้ายกับแสงที่ปรากฏรอบผ้ายันต์อย่างประหลาด...
.....เป็นโอกาสดี ในวันเสาร์ที่ ๒๘ ก.พ. ๒๕๕๘ นี้ ในวันงาน " สานรักกตัญญู บูชาครู ปี ๕๘ " ที่จะถึงนี้ ท่านอ.อุบาสก ทองทิพย์ โอภาโส จะได้อธิษฐานอัญเชิญพุทธบารมีของพระพุทธจ้าทุกๆพระองค์ และองค์บรมครู องค์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค องค์หลวงปู่จักรวาล และองค์หลวงพ่อฤษษีลิงดำ ให้มาประสิทธิ์มหายันต์เกราะเพชรอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ ให้แก่คณะศิษย์...ณ.อาศรมธรรม โอภาโส ประจำปี ๒๕๕๘ นี้ อีกครั้งหนึ่ง
(โปรดย้อนเข้าไปดูโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับวันพิธี ในโพสต์ก่อนหน้านี้ ในเฟสนี้ได้ )
สาธุ สาธุ สาธุ พระอะระหังเมตตา บุญรักษา อนุโมทามิ
คัดลอกและถ่ายทอดข้อมูลจากท่านอ.ทองทิพย์ โอภาโส
..........................
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าว่า คราวหนึ่ง พระผลบวชพรรษาเดียวกับฉัน ปรากฏว่าถูกงูเห่ากัด เห็นตัวชัดเพราะเป็นกลางคืนเดือนหงาย เห็นว่าเป็นงูเห่าแน่ เอาไฟส่องดูก็แผ่แม่เบี้ยหราเป็นงูเห่า แกก็วิ่งเข้ามาหาหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานก็ถามว่า
แกรับยันต์เกราะเพชรหรือเปล่า พระผลก็บอกว่ารับขอรับ ท่านบอกว่าถ้ารับไม่รักษา ฉันอยากจะดูคนที่รับยันต์เกราะเพชรมันตายเพราะถูกงูกัดสักคน ถ้าหากว่าแกตายฉันจะดีใจมาก ท่านผลหน้าซีด
ท่านก็กลับไป ปรากฏว่า พิษมันวิ่งขึ้นมาถึงเข่า แล้วก็ถอยไปปวดอยู่ปากแผล เดี๋ยวมันก็ปวดขึ้นมาถึงเข่า แล้วก็ปวดที่ปากแผล ๓ ครั้ง
พอวาระที่สามปรากฏว่า อาการปวดหายไปหมดเลย พิษหมดเลย
หลวงพ่อปานก็บอกว่านั่นนะซิ ฉันแน่ใจว่ายันต์เกราะเพชรของฉันดี แต่ถ้าแกรับแล้วแกตายเพราะงูกัด ฉันก็จะเห็นว่าแกเป็นคนเลวมาก ไม่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า เพราะว่ายันต์เกราะเพชรนี่ฉันอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าคุ้มครองนะไม่ใช่อื่น
ถ้าแกตายแล้วก็เป็นพระด้วย แกรับยันต์เกราะเพชรไปแล้วด้วย ถ้าถูกงูกัดแล้วตายเพราะงูพิษ ก็น่าจะตายหรอก เพราะว่าคนที่บวชแล้วไม่เคารพในพระพุทธเจ้า ไม่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าบวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา เป็นคนเลวก็ควรจะตาย แต่ว่าแกไม่ตาย นี่ก็แสดงว่าแกเป็นคนดีแล้ว ความมั่นคงในพระพุทธเจ้าใช้ได้ นี่ว่ากันถึง ” ยันต์เกราะเพชร ”
‪‎จะพูดถึงบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อปานนั้น แต่ละองค์ ก็ล้วนเก่งวิชาแตกต่างกัน แต่ที่เชี่ยวชาญชำนาญวิชายันต์เกราะเพชร ก็ต้องหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง (ผักไห่) ในสมัยหลวงพ่อเชิญ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำพิธี เป่ายันต์เกราะเพชร แทบทุกปี
ส่วน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย (เสนา) ท่านจะเน้น เป่ายันต์พรหม 4 หน้า เป็นหลักมากกว่า
ส่วน หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา (บางบาล) ท่านจะเน้นเป็นหมอรักษาคนเจ็บ สืบทอดเจตนาพระหมอ ของหลวงพ่อปาน
จะพูดถึงวิชา ยันต์เกราะเพชรสายอยุธยา ต่อจากหลวงพ่อปาน ต้องยกให้ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง มูลเหตุแห่งการเรียนวิชาของหลวงพ่อเชิญ จาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค นั้น เกิดจากหลวงพ่อปาน ท่านเป็นเพื่อนกับ หลวงพ่อเพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกทอง อาจารย์ของหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
เวลาหลวงพ่อปาน มาหาหลวงพ่อเพิ่ม ขากลับ หลวงพ่อเชิญจะทำหน้าที่พายเรือไปส่ง หลวงพ่อปาน ที่วัดบางนมโค พอหนักๆ เข้าหลวงพ่อเชิญ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชาจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค (ที่วัดโคกทอง จะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในนั้นมีหิน 2 ก้อน ก้อนหนึ่งหลวงพ่อเพิ่มได้ทำการ จารยันต์สลักไว้ อีกก้อนเป็นของหลวงพ่อปาน ทำไว้)
นอกจากนี้ หลวงพ่อเชิญ ยังใช้ยันต์ประจำตัว เป็นยันต์ ” นะลือชา (ฤาชา) ซึ่งเป็นยันต์สายวิชา หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยหลวงพ่อเพิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกทอง ได้ไปเรียนมาจาก หลวงปู่ศุข และได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อเชิญ
หลวงพ่อเชิญ ท่านจะใส่ยันต์เกราะเพชร ในพระเครื่องของท่านแทบทุกรุ่น พระหลวงพ่อเชิญแทบทุกรุ่น ต้องมียันต์เกราะเพชร หรือไม่ก็ นะลือชา


 
ราคาปัจจุบัน :     7,600 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Prateepx (138)(1)

 

Copyright ©G-PRA.COM