(0)
พระอุปคุตเนื้อทองเหลืองพระอาจารย์บ๊ะ (ลพ.บ๊ะ,ล.พ.บ๊ะ,หลวงพ่อบ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา สหธรรมมิกกับหลวงพ่อเล็ก (ลพ.เล็ก,ล.พ.เล็ก) วัดท่าขนุน








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระอุปคุตเนื้อทองเหลืองพระอาจารย์บ๊ะ (ลพ.บ๊ะ,ล.พ.บ๊ะ,หลวงพ่อบ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา สหธรรมมิกกับหลวงพ่อเล็ก (ลพ.เล็ก,ล.พ.เล็ก) วัดท่าขนุน
รายละเอียดขออนุญาตเปิดครับ
#@@เปิดพระอุปคุตจกบาตร เนื้อทองเหลือง หน้าตัก 3 นิ้ว
@@@ลพ.บ๊ะ เมตตาเสกเดี่ยว
@@@หลวงพ่อบอกว่า#ให้เอาไปตั้งที่บ้านลาภจะได้เข้า

*** ใช้มวลสารที่เหลือจากองค์ใหญ่ รวมกับ จากพระฤาษี ***

หลวงพ่อบอกว่า
#ให้เอาไปตั้งที่บ้านลาภจะได้เข้า

แล้วอย่าลืมพรที่ท่านให้ไว้ ว่า
#ชนะอุปสรรค ผนวกกับ #มหาเสน่ห์ #นะจังงัง ในตัวมวลสารด้วย ฯลฯ

.....................

เรื่องเล่ายามเย็น
โยมในพิธี : หลวงพ่อครับ ผมเห็นพระปัจเจกท่านเสด็จมาเป็นดวงแก้ว เต็มไปหมดเลย ทำไมถึงเป็นดวงแก้วครับ
หลวงพ่อ : ก็ท่านทำเป็นดวงแก้วให้ ไฉ่ซิ่งเอี๊ย ท่านเทลงมาให้ไง แต่ละองค์มาช่วยกันหมด ขนาดท่านที่เชิญยาก ๆ ท่านก็มา
โยม : แล้วที่พระท่าน โยนอะไรไม่ทราบใส่ในกองวัตถุมงคลให้ล่ะครับ
หลวงพ่อ : อริยทรัพย์ไง ครั้งที่เน้นปัญญา เพราะทรัพย์จริงๆ คือปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาทรัพย์จะอยู่ไม่นาน
โยม : ท่านเสกทั้ง โลกุตระ และ โลกียะ เลยครับ
หลวงพ่อ : ใช่ เสกให้ทั้ง ๒ แบบ เลย.... มีทรัพย์ต้องมีปัญญาด้วย เนื่องจากมีเสก พระฤาษีด้วย....

วัตถุมงคลที่นำเข้าพิธี พระท่านสงเคราะห์เสกทรัพย์ให้ ทั้งอริยทรัพย์คือ ปัญญา และ ทรัพย์ทางโลก คือความมั่งคั่ง เป็นพิธีที่ได้ทั้งโลกุตตระ และ โลกียทรัพย์ มีความเป็นมงคลอย่างสูง
หลวงพ่ออธิบายว่า หากเรามีทรัพย์แต่ไม่มีปัญญาทรัพย์นั้นก็จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าเรามีปัญญาแล้ว ทรัพย์นั้นก็จะยั่งยืน ( ต้องกราบขอบพระคุณท่านปู่ฤาษี เพราะวันนั้นเป็นวาระจัดสรร กำลังปัญญาจึงลงมาด้วย )

......

เข้าพิธีปลุกเสก
(พฤษภาคม 2564)

โดย
หลวงพ่อบ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา
เมตตามาปลุกเสกเดี่ยว
และ พิธีนี้ยังการการหล่อ
พระอุปคุตมหาลภองค์ใหญ่ด้วย

#พิธีนี้
พระท่านสงเคราะห์ #เสกทรัพย์ให้
ทั้งอริยทรัพย์ คือ #ปัญญา และ #ทรัพย์ทางโลก
คือ #ความมั่งคั่ง เป็นพิธีที่ได้ทั้งโลกุตตระ
และ โลกียทรัพย์ มีความเป็นมงคลอย่างสูง

หลวงพ่ออธิบายว่า หากเรามีทรัพย์
#แต่ไม่มีปัญญาทรัพย์นั้นก็จะอยู่ได้ไม่นาน
#แต่ถ้าเรามีปัญญาแล้ว
#ทรัพย์นั้นก็จะยั่งยืน
( ต้องกราบขอบพระคุณท่านปู่ฤาษี
เพราะวันนั้นเป็นวาระจัดสรร
กำลังปัญญาจึงลงมาด้วย )

บันทึกช่วยจำ พิธีไฉ่ซิ่งเอี๊ยะ

ในพิธีได้อัญเชิญ

ลูกแก้วสามสี หลวงพ่อบ๊ะเสก
สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระพุทธกัสสป
สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย
ลูกแก้วมหาจักรพรรดิองค์ครู หลวงพ่อบ้ะ
ลูกแก้วจักรพรรดิสมัยหลวงพ่อฤาษีพุทธาภิเษก
ลูกแก้วจักรพรรดิ พิธีรวมคณาจารย์สายวัดท่าซุง
ของ วัดเขาวง

และอัญเชิญ
สมเด็จองค์ปฐม เนื้อเงิน วัดท่าซุง
สมเด็จองค์ปฐม 5 นิ้ว วัดท่าขนุน
สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต
พระปัจเจกพุทธเจ้า...

ฯลฯ

ไม่อ้างอิงที่มา แต่ขอบคุณด้วยนะครับ

............

🙏🙏 พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนเล่าเกี่ยวกับ "พระอุปคุตจกบาตร" ว่า.....

มีคนถามว่า "ที่วัดท่าขนุน มีพระอยู่กลางสระน้ำ ที่แหงนหน้ามองฟ้า ตรงนั้นหมายความว่าอย่างไรครับ" หลวงพ่อบอกว่า "นั่นเป็นรูปพระอุปคุต"

แล้วท่านก็เล่าเรื่องให้ฟังว่า "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ท่านจะจัดงานฉลองพระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเวลา ๗ ปี ๗ เดือน กับ ๗ วัน ท่านรู้ดีว่างานบุญใหญ่ขนาดนี้พญามารต้องขวางแน่ ๆ จึงไปสอบถามพระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระว่า จะจัดการอย่างไรไม่ให้พญามารมาขวางได้ พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระบอกว่า พระอุปคุตเป็นคู่ปรับของพญามาร ต้องส่งทูตไปเชิญท่านซึ่งนั่งเข้านิโรธสมาบัติอยู่ที่สะดือทะเลนั้นมา

พระเจ้าอโศกมหาราชท่านก็เลยตั้งให้พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระเป็นประธาน ส่งตัวแทนไปเชิญพระอุปคุต เมื่อตัวแทนพาท่านมาถึง เจอหลวงตาแก่ผอมกระหร่องเลย พระเจ้าอโศกฯ ก็ไม่มั่นใจ อยากจะทดสอบ

พอตอนเช้าพระอุปคุตออกบิณฑบาต พระเจ้าอโศกฯ ก็ปล่อยช้างไล่ ในอรรถกถาท่านบอกไว้ว่า พระอุปคุตหันมาเผชิญหน้า ช้างก็เลยกลายเป็นดั่งรูปปั้นศิลา กระดิกตัวไม่ได้ พระเจ้าอโศกฯ เห็นดังนั้นก็ยอมรับว่าพระอุปคุตมีความสามารถ จึงกราบขอขมา พระอุปคุตก็เลยคลายฤทธิ์ ทำให้ช้างเดินกลับโรงช้างได้เอง

พระเจ้าอโศกฯ บอกว่าอยากเห็นการแสดงฤทธิ์ชัด ๆ พระอุปคุตบอกว่า จะบันดาลให้เกิดแผ่นดินไหว พระเจ้าอโศกฯ ตรัสว่า แผ่นดินไหวก็ไหวอยู่บ่อยแล้ว จะเชื่อได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือของพระอุปคุต อาจจะเกิดไหวในขณะนั้นพอดีก็ได้ พระอุปคุตบอกว่า ถ้าเช่นนั้นให้พระองค์เอาขันน้ำล้างพระพักตร์มา แล้วตักน้ำใส่ ท่านจะทำให้แผ่นดินไหวโดยน้ำสะเทือนในขันแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ปกติถ้าแผ่นดินไหวธรรมดาต้องสะเทือนทั้งขัน

พระเจ้าอโศกฯ ก็ตกลง ตักน้ำมา ปรากฏว่าพระอุปคุตแสดงฤทธิ์เกิดเหตุแผ่นดินไหว ไหวชนิดที่ว่าอย่างอื่นสั่นหมด แต่น้ำสะเทือนแค่ครึ่งขัน ท่านจึงได้ยอมรับว่าเป็นฤทธิ์ของพระอุปคุตจริง ๆ จึงกราบอาราธนาท่านให้เป็นผู้ป้องกันไม่ให้พญามารมาทำลายพิธี พระอุปคุตก็เลยต้องฉันไป แหงนมองไปว่าพญามารมาหรือยัง ?

คนเขามักจะนิยมสร้างรูปท่านในลักษณะนี้ ที่สร้างรูปในลักษณะนี้เกิดจากความนัยสองอย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ พระอุปคุตนิยมเข้านิโรธสมาบัติ ก็เลยกลายเป็นพระมหาลาภไปโดยปริยาย การบูชาท่านก็จะมีลาภผลมากไปด้วย อีกนัยหนึ่งเป็นความเชื่อในระยะหลัง เพราะดูจากรูปแล้วเป็นลักษณะท่านล้วงบาตร กำลังฉันอยู่ ก็คิดว่าถ้าบูชา อย่างไรเราก็ไม่อดแน่ มีกินแน่นอน

แต่ว่าทางภาคเหนือยังคงความเชื่อเรื่องพระอุปคุตนี้อยู่ เหมือนทางพม่า ถ้าเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนไหนก็ตาม ที่ตรงกับวันพุธ เขาเชื่อว่าพระอุปคุตจะออกบิณฑบาต ทางเหนือเรียก เป็งปุ๊ด (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ) เขาจะมานิมนต์พระไปรับบาตรตั้งแต่เที่ยงคืน

อาตมาโดนปลุกงัวเงียไปรับบาตรมาแล้ว ก็มานั่งคิดวิเคราะห์ว่าทำไมเป็นประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน ท้ายสุดก็สรุปได้ด้วยปัญญาของตัวเอง ผิดถูกช่างมัน ว่าพระอุปคุตท่านออกบิณฑบาตในวันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำพอดี เนื่องจากมีคนได้ใส่บาตรท่านตอนออกนิโรธสมาบัติแล้วรวยในวันนั้น ทำให้คนเชื่อกันว่าวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธ พระอุปคุตจะออกบิณฑบาต ประการต่อมาคนใส่บาตรใส่แต่เช้าเลย คนที่อยากได้บุญก็ตื่นให้เช้ากว่านั้นหน่อย พออีกคนเห็นคนนั้นตื่นเร็วก็เลยตื่นตั้งแต่ตีห้า อีกคนเห็นคนนั้นตื่นตีห้า ก็เลยตื่นตีสี่ครึ่ง ไล่ไปเรื่อย จนอาตมาต้องโดนปลุกให้ตื่นตอนเที่ยงคืน..!

ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนหรือตักบาตรพระอุปคุตทางด้านเหนือยังมีอยู่เป็นปกติ ส่วนทางด้านพม่าหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว เขาจะจัดแพตกแต่งอย่างสวยงามแล้วอาราธนาพระอุปคุตใส่ลงแพ ทำบุญฉลองแล้วก็ปล่อยให้ลอยตามน้ำไป ไปถึงที่หมู่บ้านไหนก็จะอาราธนาขึ้นที่หมู่บ้านนั้น แล้วก็จัดงานฉลอง นิมนต์พระไปเลี้ยงที่บ้าน ใครอยากเป็นเจ้าภาพก็นิมนต์พระอุปคุตเข้าบ้าน เวลาฉลอง บ้านนี้อาจสวดมนต์เย็นแล้วฉันเช้า พอขยับไปอีกบ้านก็อาจนิมนต์ฉันเพล ขยับไปเรื่อย ๆ บางหมู่บ้านอยู่ถึง ๒ เดือนก็มีเพราะว่าหมู่บ้านนั้นใหญ่และมีชาวบ้านเยอะ เขาอยากทำบุญกันทั้งหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็อยากรวย ถ้าทำบุญครบแล้ว ก็นิมนต์ท่านลงแพปล่อยท่านลอยน้ำไป บ้านอื่นก็เตรียมตัวนิมนต์ต่อ ทางพม่าเขาทำแบบนี้ ใหม่ ๆ แพต้นทางนั้นดูงดงามอลังการ แต่งเสียอย่างดีเลย ไปถึงท้าย ๆ กะรุ่งกะริ่งดูไม่ได้ เพราะหลายเดือนเต็มที

ขอบคุณที่มาเว็บวัดท่าขนุน
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน2,300 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 03 มิ.ย. 2564 - 11:01:25 น.
วันปิดประมูล - 04 มิ.ย. 2564 - 13:03:37 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลpaoku (3K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     2,300 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    BENNY007 (32)

 

Copyright ©G-PRA.COM